บทความ

Short Fic : LOTR : Mouth of Sauron : นี่หรือคือสิ่งที่เจ้าต้องการให้ข้าได้เห็น

   สวัสดีฮะะะะ คราวนีเราเอา fic เก่าที่เคยแต่งมาแก้ใหม่ล่ะ เพราะกลับมาเวิ่นเว้อหนักอีกแล้ว 555 หวังว่า fic นี้จะช่วยสร้างความสุขให้นะ   ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะฮะ :) -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- "วิซคิงแห่งอังมาร์เอ๋ย เจ้ามิได้จบชีวิตลงด้วยคมดาบของบุรุษดั่งคำทำนายไว้จริงๆ" ดวงตาสีแดงฉานของโอษฐ์แห่งเซารอนที่ตอนนี้ปราศจากการซ้อนบังด้วยหมวกเกราะเหมือนทุกคราได้ทอดสายตาไปยังท้องทุ่งเพเลนอร์จากที่สูงของเนินเขาซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลนัก เขามองข้ามซากศพหลากเผ่าพันธุ์ที่เกลื่อนพื้น-- เขามองข้ามกองทัพสองฝ่ายที่ห้ำหั่นกันแทบตายเพื่อให้ได้ชัยมาครอง-- เขามองข้ามเอโอวีน สตรีผู้สังหารวิซคิง-- แต่กระนั้นเขาไม่ได้มองข้ามวิซคิงแม้แต่คราเดียว ต่อให้บัดนี้วิซคิงได้แตกดับไปแล้วก็ตาม โอษฐ์แห่งเซารอนหลับตาลงนึกถึงเสียงกรีดร้องโหยหวนของวิซคิงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วดึงบังเหียนกระตุกให้ม้าหมุนกลับ หันหลังให้สนามรบที่ไม่มีความหมายอะไรต่อตนเองแล้ว "กลับกันได้แล้วไอ้พวกเศษสวะ-" เสียงแ...

Fic Epic 2013 : I won't let you down,Dad

รูปภาพ
                 ก่อนอื่นก็สวัสดีนะ นี่คือ Fic แบบจริงๆจังๆเรื่องแรกที่เรากลับมาแต่งในรอบปีกว่านี้ Fic นี้มาจากอนิเมชั่นเรื่อง Epic ที่ออกมาในปี2013 เนื้อหาของ Fic จะต่างจากตัวอนิเมชั่นอยู่บ้าง *สนองนีดคนแต่งเองล้วนๆ 555* เรื่องราวของ Fic จะพูดถึงสายสัมพันธ์ของพ่อลูกระหว่างแมนเดรกกับแด๊กดาซึ่งเป็นตัวร้ายของเรื่อง เป็นแนวอบอุ่นฮีลใจ( ?) ไม่มีฉาก NC รึฉาก Incest ชวนผิดศีลธรรม *อยากให้มองถึงความรักของพ่อลูกที่ไม่ใช่เชิงเรื่องอย่างว่า*  ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านมากๆเลย --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------                 มันเป็นคืนที่แสงจันทร์และดวงดาราส่องสว่าง แสงเล่านี้เผยให้เห็นทิวทัศน์ของพงไพรยามกลางคืนอที่เงียบสงบและงดงามอันชวนให้จิตใจผ่อนคลาย แต่ไม่ใช่สำหรับบ็อกแก๊น พวกบ็อกแก๊นชอบวันที่ท้องฟ้าปิดและมืดครึ้มที่ไม่มีแสงใดๆรอดผ่านหมู่เมฆมาได้ ดังนั้นแล้วคืนนี้จึง...

[[ Short Fic ]] : Lord Of The Rings

เราก็ยังคงวนกันแถวมอรร์ดอร์กันต่อไป แต่คราวนี้เป็นฝั่งของพวกนาซกูลกับเหล่าผู้ติดตาม --------- [ย้อนเวลากลับไปซักนิด]    ลานกว้างหน้าปราการที่พักถูกจับจองด้วยร่างทั้งสิบสอง... นาซกูลใต้บังคับบัญชาของวิซคิงแห่งอังก์มาร์แปดตนเหนือหลังม้ากับผู้ติดตามชาวมนุษย์ของโอษฐ์แห่งเซารอนสี่คนซึ่งกำลังยืนประชันหน้ากันแบบไม่มีถอย    บรรยายมาคุที่แสดงออกถึงความไม่ลงรอยกันแผ่กระจายออกมาทำให้ผู้ที่ผ่านไปมาบริเวณนั้นรู้สึกอึดอัด แต่จะทำไงได้เมื่อพวกเขาอยู่สูงเกิดกว่าจะแตะต้องได้ หากคิดไปลองดีด้วยย่อมต้องจบศพไม่สวยเป็นแน่แท้    ทั้งสองฝ่ายต่างจ้องกันมาได้พักใหญ่ฝ่ายผู้ติดตามก็เริ่มลงมือเปิดศึกก่อนด้วยคำพูดที่แสลงรูหูไหลออกมาไม่ขาดสาย วาจาแต่ละคำล้วนเสียดแทงได้เจ็บแสบจัดจ้านไม่แพ้โอษฐ์แห่งเซารอนผู้เป็นนายเสียจะต่างกันตรงที่นายของพวกผู้ติดตามมีชั้นเชิงการจิกกัดที่สูงกว่านัก    พวกนาซกูลที่ไม่สามารถพูดแสดงอารมณ์ออกมาได้ทำเพียงแค่พ่นลมหายใจออกมาด้วยความกระฟัดกระเฟียด สั่งให้ม้าย้ำไปมาอยู่กับที่ด้วยความโมโห ภูตม้าดำทั้งแปดต่างตระหนักดีว่าผู้ติดตามเหล่านี้หา...

Short Fic : Mouth of Sauron

คุยกันก่อน : แต่งสนองneedล้วนๆเลยนะเนี่ย    เสียงข้าวของถูกปากระจัดกระจายก่อให้เกิดดังเล็ดลอดออกมาข้างนอกแม้ว่าประตูห้องจะถูกปิดเอาไว้โดยไม่มีทีท่าว่าจะเปิด เสียงเหล่านั้นยังคงดังไม่หยุดมันจึงกระตุ้นต่อมอยากรู้อยากเห็นให้ผู้อยู่นอกห้องอย่างผู้ติดตามทั้งสี่ได้มากนัก    "เกิดอะไรขึ้นภายในห้องท่านโอษฐ์ฯน่ะ-?"    "อยากรู้ก็ลองถามท่านดูเส่-"    "บ้ารึ- หากท่านอารมณ์ไม่ดีอยู่ไม่เท่ากับหาเรื่องใส่ตัวหลอกรึ"    "โบราณว่าอยากได้ลูกเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือไม่ใช่รึ-?"    เสียงทั้งสี่ดังขึ้นเป็นระลอกๆเพื่อหารือกัน สุดท้ายมติก็เป็นเอกฉันท์โดยลงความว่าจะเคาะประตูห้องถามคนข้างในว่าเกิดอะไรขึ้นดู    ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นเป็นจังหวะ    "ท่านโอษฐ์ฯ--- เกิดอะไรขึ้นข้างในรึป่าวขอรับ" ผู้ติดตามที่เป็นหน่วยกล้าตายเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงปนอยากรู้ซึ่งประสงค์อย่างหลังมากกว่า เมื่อพูดจบก็สังเกตุได้ว่าเสียงดังในห้องเงียบหายไปแล้ว "เอ่อ---" เจ้าตัวคิดจะลองถามอีกครั้งแต่เสียงเหมือนมีอะไรมากระแทกประตูก็ทำให้เจ้าตั...

[FanFic : frostmaster] I will protect you

คุยกันก่อน : งานอดิเรกคืออวยเรือผีฮะ ซึ่งคราวนี้ก็คือโลกิ & แกรนด์มาสเตอร์ นั่นเองงงงงง แค่กๆ Rate : PG (เราว่าน่าจะประมาณนี้) ---------    "โลกิ- กลับบ้านกันเถอะ" ทุกอย่างจบแล้วก็ถึงเวลาที่ควรจะกลับบ้าน... เทพเจ้าสายฟ้าคิดแบบนั่นจึงเอ่ยปากออกไปอย่างร่าเริง แต่สิ่งที่ได้ช่างตรงข้ามกลับสิ่งที่คาดไว้มากนัก    "ข้าขอโทษท่านพี่ ข้าต้องอยู่ที่นี่...กับเขา" เจ้าของดวงตาสีเขียวกระจ่างส่ายหน้าช้าๆพลางกระชับวงแขนกอดคนที่ไม่ได้สติแน่น "ข้าอยากปกป้องเขา..."    ธอร์มองน้องชายของตนที่ห่างออกไปไม่กี่ก้าวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมา "ในที่สุดก็โตเป็นผู้ใหญ่ซักทีนะน้องข้า ฮะๆๆ" เจ้าตัวสาวร่างเข้าไปใกล้ ฝ่ามือหยาบกร้านที่ผ่านอาวุธมาสารพัดขยี้เรือนผมสีดำอย่างอ่อนโยนพร้อมด้วยเสียงหัวเราะดังๆเป็นการแถมท้าย เสียงหัวเราะที่พยายามกลบเกลื่อนความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ภายในจิตใจ     "งั้นก็...ลาก่อนนะโลกิ ขอให้เจ้าโชคดี"     "เช่นกันท่านพี่..."    ตอนนี้ธอร์ได้จากไปแล้ว เหลือแค่เขากับแกรนด์มาสเตอร์ ใช่ แค่เราสองคนเท...

[ FanFic : Lord Of The Rings] ภูติแหวนและสายฝน

รูปภาพ
สาระไม่มีเหมือนเดิมฮะ//ฮา ---------    ร่างใต้ผ้าคลุมขาดวิ่นกำลังควบม้าเหยาะๆท่ามกลางสายฝน ใบหน้าพร้อมแผ่นหลังลู่ต่ำลงเพื่อกันหยาดน้ำจากฟ้า ประสาทสัมผัสด้านการดมกลิ่นที่เลิศกว่าการมองเห็นสูดหายใจรับกลิ่นดินในอากาศเข้าไปเต็มปอด มันเป็นกลิ่นที่ชวนสดชื่นแต่... มันทำให้ปวดหัว ปวดจนแถบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ    สายฝนและลมหนาวยามรัตติกาลสร้างความเย็นยะเยือกจนเสียดแทงเข้าไปถึงวิญญาณ ความทรมาณเล่นซ้ำไปซ้ำมาไม่มีหยุด อา... ทั้งๆที่เขาเป็นภูติแหวนแต่ดันรับรู้ถึงความเจ็บปวดและทรมาณเสียได้ ช่างน่าขันนัก...    เหนื่อย... เขาคิดขึ้นในใจ ทั้งๆที่เวลาเหนื่อยนั้นต้องพักแท้ๆแต่เขากลับทำไม่ได้ เขาต้องตามหา... ตามหาแหวนแล้วนำมันกลับไป... หลังจากนั้น... จะได้พักซักที...    ภูติแหวนขี่ม้าสีดำปลอดมาได้ค่อนคืนฝนก็ยังตกเหมือนเดิมแถมยังตกแรงขึ้นเรื่อยๆจนไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เขาจึงตัดสินใจพัก--- ไม่งั้นทั้งเขาทั้งม้าอาจอยู่ไม่ถึงพรุ่งนี้เพราะอากาศที่หนาวเหน็บเช่นนี้เป็นแน่    เขาพาม้าไปหลบฝนที่ใต้ต้นไม้ใกล้ๆแม้มันไม่ใหญ่พอที่จะกันได้ทั้งหมดก็ตาม เจ้าม้าตัวใหญ่น...

[FanFic : Lord Of The Rings] ภูติแหวนและป่าหมอก

รูปภาพ
คนเขียนแต่งสนองneedตัวเองด้วความมึน เพราะงั้นสาระในหนังไม่มีนะ [°×°] ---------    ท่ามกลางป่าไม้ทึบหนาที่แสงสว่างของดวงตะวันไม่อาจส่องลงมาถึง ร่างสีดำเหนือหลังอาชาตัวใหญ่ควบม้าเข้าสู่เข้ามาในป่าช้าๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำสั่งหรือดวงจิตคิดเล่นตลกอะไรที่ดลใจให้เข้ามา ป่าแห่งนี้มีสิ่งลี้ลับนานาพรรณซ่อนตัวอยู่จนไม่อาจรู้ได้ ภูติแหวนเพียงตนเดียวจากทั้งเก้ามาถึงใจกลางของป่า เขาหยุดม้าลงพร้อมกวาดสายตาไปรอบด้าน ลมหายใจถี่กระชั้นและรุนแรงขึ้น หมอกทึบที่ไม่อาจทราบที่มาได้กำลังก่อตัวล้อมภูติแหวนเอาไว้ ความคลื่นไส้ที่ไม่สามารถมีได้กลับปรากฏขึ้น ร่างกายรู้สึกสั่นเทิ้มจนคุมไม่อยู่ มือสองข้างกระชับบังเหียนแน่น    จากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด บรรยากาศหนักอึ้งลงจนของเดิมไม่อาจเทียบได้ กลิ่นคาวเลือดและเนื้อเน่าแผ่กระจายคละคลุ้ง ความน่าสะอิดสะเอียนก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงแซ่กๆราวสัตว์ขนาดใหญ่กำลังเคลื่นผ่านกระตุ้นสัญชาตญาณเอาชีวิตรอดของภูติแหวน เขาชักดาบออกมาโดยไม่รอช้า ผ้าคลุมสะบัดซ้ายทีขวาทีตามการหันหน้าและเมื่อเขาหันกลับมาทางเดิมอีกครั้งก็ต้องประจันหน้ากับงูยักษ์บาซิลิส-! ...