บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤษภาคม, 2017

BrotherS : บทที่5 ยอมรับ

[[ คำเตือน : ฉากเรท(มั้ง?)นะเออ]]    เสียงลมหายใจถี่หนักที่ชวนให้อดคิดเรื่องลามกไม่ได้พร้อมเสียงเนื้อกระทบกันดังไม่ขาดสายออกมาจากห้องครัวของบ้านบุญพิทักษ์ธรรม    ใบหน้าฝ่ายที่อยู่ด้านบนซบลงที่ไหล่กว้างคนที่ตนกดเอาไว้เพื่อเร่งจังหวะการเข้าออกแก่นกายขึ้น ร่างที่ถูกทาบทับกัดริมฝีปากแน่นจนเลือดซิบกั้นไม่ให้เปล่งเสียงที่น่าเกลียดไม่เหมาะกับผู้ชายทั้งแท่งออกมา มือเท้าทั้งสองคู่พยายามดันอีกฝ่ายให้ออกไป เบิกฟ้ามองอรุณอย่างขำๆเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพยายามขัดขืนก็เพิ่มแรงที่กระแทกมากขึ้นด้วยความสนุกสนาน การโดนกระทำแบบนี้ทำให้อรุณรู้สึกอับอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี    อรุณพยายามดันเบิกฟ้าให้ออกไปอีกครั้งแต่พอถูกกระแทกกลับมา วงแขนที่ขัดขืนเปลี่ยนมาโอบคอเบิกฟ้าอย่างห้ามไม่อยู่ รวดเร็วจนเบิกฟ้าเองยังต้องแปลกใจจึงกระแทกเข้าจุดเดิมซ้ำอีกครั้ง อรุณโอบคอให้เบิกฟ้าก้มต่ำแล้วซุกใบหน้าที่ซอกคออีกฝ่ายแน่น ลมหายใจถี่มากขึ้น    เสียงหอบชวนเย้ายวนยั่วกามรมณ์ของเบิกฟ้าให้พุ่งพล่านมากขึ้น "ท่าทางผมจะเจอจุดๆนั้นของพี่ซะแล้วสิ ต่อมลูกหมากสินะ..." เจ้าของเสียงที่ปลุกอารมณ์เบิ...

BrotherS : บทที่4 โรงเรียน

   เวลาเจ็ดนาฬิกาสี่สิบเจ็ดนาทีเสียงมาร์ชประจำโรงเรียนดังขึ้นเพื่อบอกให้นักเรียนเตรียมตัวเข้าแถวเคารพธงชาติหน้าเสาธง ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี เหล่านักเรียนเข้าแถวกันในโดมไม่ต้องทนร้อนแต่เฉพาะมัธยมต้นเท่านั้นล่ะนะ มัธยมปลายก็ต้องยืนอาบแดดอย่างมีความสุก(?)กลางสนามบาสตามธรรมเนียม    "ร้อ น ชิบหาย แม่งเอ๊ย แค่เปิดเทอมวันแรกก็จะตายอยู่แล้ว" ภูผาบ่นอย่างหงุดหงิด มือขวายกขึ้นกันแดดที่ส่องมาแยงตา "มะเร็งแดกแน่กู"    "นายภูผาเลิกบ่นเป็นผู้หญิงได้แล้ว คำพูดคำจาก็ให้มันดีเสียด้วย เด็กอะไรไร้มารยาทสิ้นดี"ร่างค่อนไปทางท้วม ผมหยิกเป็นลอนพร้อมไฝใต้ตาซ้ายจ้องภูผาเขม็ง เสียงดุดังลั่นแถวเรียกความสนใจพร้อมเสียงหัวเราะให้คนรอบข้างมากมายไม่วายมือคนตรงหน้าเลื่อนมาบิดที่หัวนมภูผาด้วยความชำนาญจนภูผาต้องร้องลั่น "อย่าทำพฤติกรรมอย่างนี้อีกไม่งั้นครูต้องเรียกผู้ปกครองนายมาคุยแน่นายภูผา"ครูสมศรีมนุษย์ป้าประจำโรงเรียนควบตำแหน่งครูประจำชั้นของเบิกฟ้าและภูปากล่าวเสร็จก็ดึงร่มขนาดพกพาในกระเป๋าสะพายขึ้นมากลางบังแดด   กว่าครูโลกสวยจะพูดหน้าเสาธงเสร็จนักเรียนที่ยืนตากแดดก็พ...

FanFic : witchking of angmar and mouth of sauron 02

รูปภาพ
FanFic :《LORD OF THE RING》 : witchking of angmar & mouth of sauron : 02 Rate : PG (?) คุยกันก่อน : ขอกล่าวเตือนอีกครั้ง อย่าหาสาระจากFanFicนี้ แอบเขียนแบบAUนิดๆ(หรอ?)//หัวเราะ       กลางคืนเข้ามาเยือนเปลี่ยนมอร์ดอร์กลายเป็นดินแดนมืดมิดอ้างว้างเหมือนไม่มีสิ่งใดอาศัยอยู่ กลางวันที่ว่าเงียบงันแล้วเมื่อตกกลางคืนกลับเงียบงันจนน่าหวาดหวั่นเสียยิ่งกว่า แสงสว่างในยามวิกาลหาใช่แสงนวลจากดวงจันทราหรือหมู่ดาราที่สุกสกาวแต่งแต้มความสวยงามบนฟากฟ้ายามราตรี แต่เป็นนัยน์ตาสีส้มสดเหนือหอคอยทมิฬต่างหากเล่าที่มอบความสว่างแก่มอร์ดอร์    แสงสีส้มอ่อนทอดยาวจากดวงตาไปทุกแห่งหนในดินแดนมอร์ดอร์ ไม่มีสิ่งใดรอดพ้นดวงตาดวงนี้ได้ไม่ว่าจะกลางวันรึกลางคืนสิ่งเล็กรึสิ่งใหญ่ ภาพในมอร์ดอร์ผ่านเข้ามาเหมือนเดิมวันแล้ววันเล่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เว้นเสียแต่ว่าตอนนี้ภาพที่ปรากฏในเวลานี้ไม่ใช่มอร์ดอร์กลับเป็นความมืดมิดแทน     ความมืดตรงหน้าบิดเบี้ยวราวกับมีใครกำลังเล่นตลกกับมิติอยู่ เวลาผ่านไปไม่นานเสียง เหมือนกระจกนับร้อยๆบานแตกก็ดังขึ้นพร้อมช่องโหว่ขนาดไม่ใหญ่นักปรา...

FanFic : witchking of angmar and mouth of sauron 01

รูปภาพ
FanFic : 《LORD OF THE RING》 : witchking of angmar & mouth of sauron : 01 Rate : PG (?) คุยกันก่อน : FanFicนี้แต่งขึ้นเพื่อสนองneedของผู้เขียน โปรดอย่าหาสาระจากFanFicนี้//หัวเราะร่า       เยื้องไปจากบูรพาทิศของอาณาจักรกอนดอร์...    เมฆหมอกหนาทะมึนแผ่กระจายเป็นวงกว้างปกคลุมดินแดนทั้งหมดจนยากจะแยกได้ว่าเป็นกลางวันหรือกลางคืนจากอำนาจของเซารอน ลอร์ดมืดแห่งมอร์ดอร์ ซึ่งบัดนี้ได้เปลี่ยนร่างของตนให้กลายเป็นนัยน์ตาสีแสดขนาดยักษ์บนยอดหอคอยทมิฬ สอดส่องทุกสรรพสิ่งที่อยู่รึย่างกายเข้ามายังดินแดนโดยมิเคยมีสิ่งใดรอดพ้นสายตาไปได้ราวกับว่าผู้ได้ที่จับจ้องไปยังดวงตานั้นจะถูกสูบวิญญาณออกไปจากร่างจนหมดสิ้น   เสียงควบม้าอย่างบ้าคลั่งจากเหล่าร่างสีดำดั่งลั่นไปทั่วมอร์ดอร์พร้อมเสียงกรีดร้องต่ำๆดังขึ้นเป็นระยะๆ หากมีผู้ผ่านมาได้ยินเสัยงนี้คงต้องหวาดผวาเป็นแน่    เสียงห้อตะบึงยังคงดังไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้จักเหน็ดรู้จักเหนื่อยในที่สุดเสียงควบม้าได้เริ่มชะลอลง เมื่อเห็นลางๆว่ามีกำแพงสีดำตั้งตะหง่านทอดยาวไปถึงตีนเขาปิดกั้นเส้นขวางเอาไว้  ...

FanFic : วิทูร เชียร [พระเจ้า & สาวก ]

รูปภาพ
   "โอ๊ ข้าแต่พระเจ้าเพียงหนึ่งเดียวของข้า เหตุใดกันท่านจึงมอบความรัแก่มนุษย์ที่โง่เขลาผู้นั้นแต่ไม่มอบให้ข้า โอ๊ ข้าแต่พระเจ้าเพียงหนึ่งเดียวของข้า ได้โปรด... ได้โปรดมอบความรักแก่ข้าด้วย โอ๊ ข้าแต่พระเจ้าเพียงหนึ่งเดียวของข้า ข้าริษยาเหลือเกิน..."    คำวิงวอนอันแสนแผ่วเบาราวกับกลิ่นหอมของชาชั้นดีที่โชยมาจากแก้วกระเบื้องเคลือบเหนือร่างชายหนุ่มผมแดงเจ้าของใบหน้าชวนให้ลุ่มหลงไม่ต่างจากตุ๊กตาซึ่งกำลังหลับไหลตาพริ้มอยู่ในโลง    ร่างสูงที่ยืนมองพลันทรุดลงข้างๆโลงที่บรรจุร่างของผู้ที่ตนเรียกว่า พระเจ้า มือที่เดิมที่มักจะจับไพ่อยู่ตลอดเวลาบัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นลูบใบหน้าคมสันทั้งน้ำตาด้วยความรู้สึกยากเกินจะหยั่งถึง . . . . . . . . . . . . .    ในความมืดมิดที่ไร้ซึ่งแสงสว่างร่างของคนผมแดงค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นช้าๆจากเสียงเรียกที่เคยได้ยินอยู่บ่อยครั้งแต่กระนั้นก็ไม่อาจมองเห็นอะไรได้ มีแต่ความดำมืดอันว่างเปล่า เสียงวิงวอนของคนที่อยู่อีกฝากแผ่วลงกลายเป็นเสียงสะอื้นไห้ไม่ได้จังหวะ แต่คิดถึงหน้าชายหนุ่มที่ชอบสรรเสริญตนในสภาพร้องไห้ก็อดทำให้หยุดที่จะ...

BrotherS : บทที่3 งานศพ

  เดิมทีอรุณต้องการจะจัดงานศพพวกคุณพ่ออย่างเรียบง่ายแต่กลับลืมไปเสียว่าคุณพ่อนั้นเป็นนักธุรกิจคนให้คนโตเลยทำให้มีแขกเรื่อมาร่วมงานเป็นจำนวนมากทั้งเพื่อนสมัยสาวๆของคุณแม่ทั้งสองและคนในวงการเดียวกันกับคุณพ่อ    "อาเสียใจเรื่องครอบครัวอรุณด้วยนะ" หนุ่มใหญ่ที่ดูมีภูมิฐานควบตำแหน่งประธานบริษัทในเครือลูกข่ายของตระกูลบุญพิทักษ์ธรรมที่อรุณเป็นประธานอยู่เดินเข้ามาแสดงความเสียใจด้วย    "ขอบคุณครับคุณอารุ่งโรจน์" อรุณยิ้มเป็นเชิงขอบคุณให้คนตรงหน้าที่แวะผ่านเข้ามาทักทายตน    รุ่งโรจน์ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยอย่างมีเลศนัยพร้อมมือที่เห็นเส้นเลือดปูดโปนอย่างได้ชัดเจนยกขึ้นมาจับบริเวณไหล่กว้างของอรุณเลยไปถึงยื่นนิ้วไปเขี่ยไรผมข้างหูอรุณเล่นราวกับเคยชินมาก่อน ร่างกายอรุณรู้สึกขนลุกจนสะท้านวาบไปถึงในใจ "ถ้ามีอะไรก็ติดต่ออามาได้หล่ะ" มืออีกข้างที่ว่างอยู่หยิบนามบัตรและเบอร์โทรศัพท์ของตนแนบใส่กระเป๋าเสื้อให้อรุณแล้วตบที่กระเป๋าเบาๆทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะเดินจากไป    'ไอ้แก่โรคจิต' อรุณกร่นด่ารุ่งโรจน์ในใจโดยที่ไม่คิดจะหันไปมองร่างที่ที่ตนเพิ่งตามด่าไปแม้แต่นิ...