[the fallen evil ] 02
"จากนั้นลูซิอัสได้ลุกขึ้นมาจากพื้น ตาขาวของเขาแปรเปลี่ยนเป็นสีดำ แววตาเปี่ยมไปด้วยความอาฆาต ปีกสีเงินทั้งสิบคู่ถูกกางออกมา มือทั้งสองข้างที่ไร้ซึ่งสรรพาวุธใดๆถูกทดแทนด้วยพลังเวทย์ที่ร้ายแรงเกินต้านทาน---" เสียงแหบแห้งเว้นระยะไปครู่นึงเพื่อพักหายใจ
"จากนั้นการต่อสู้ระหว่างลูซิอัสกับเคิร์สก็ได้เริ่มต้นขึ้น มันเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด เคิร์สสามรถต้านการโจมตีจากลูซิอัสได้อย่างสูสี ลูซิอัสที่ภูมิใจกับพลังของตนเองแต่กลับไม่อาจกำจัดศัตรูหัวใจตรงหน้าได้ความโกรธปะทุยิ่งขึ้นกว่าเก่า การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้พื้นที่บางส่วนของภพปีศาจถูกทำลายไปจำนวนมาก ความเสียหายมากเกินจะนับไหว ในที่สุดการต่อสู้ก็ได้จบลงเมื่ออาร์คาทัชราชาแห่งปีศาจยื่นมือเข้ามาขวางทั้งคู่เอาไว้ก่อนที่ภพปีศาจจะถูกทำลายไปมากกว่านี้ ทั้งคู่ได้รับการลงโทษตากอาร์คาทัช เคิร์สถูกยึดปีกและเนรเทศออกจากภพปีศาจ ทุกสิ่งที่เขาเคยมีถูกริบคืน ใช้ชีวิตเยี่ยงคนธรรมดา ไม่ได้วิเศษวิโสเกินกว่าใครเหมือนในอดีต---"คราวนี้มือที่มีผิวหนังเหี่ยวย่นหยิบกระติกพกซึ่งภายในบรรจุน้ำสมุนไพรไว้ขึ้นมาดื่ม ก่อนจะกระแอมออกมาสองสามครั้งเพื่อไล่ความระคายเคืองที่คอ
"แล้วลูซิอัสหล่ะคะ เขาได้รับการลงโทษยังไง" เสียงใสดังขึ้นถามโดยหวังว่าคนตรงหน้าจะสนองต่อความอยากรู้ของเธอ
ดวงตาสีเทาหม่นเหลือไปมองหญิงสาวช่างสงสัยตรงหน้าแล้วคลี่ยิ้มบาง
"นั้นสินะ ลูซิอัสถูกลงโทษด้วยการให้ไปจุติที่ภพมนุษย์ เวียนว่ายตายเกิดเฉกเช่นมนุษย์ธรรมดาทั่วไปที่ไร้ซึ่งพลังอำนาจใดๆเป็นเวลาห้าพันชาติ และในตอนนี้เขาก็คงกำลังใช้ชีวิตดุจมนุษย์ธรรมดาจากความผิดที่ตนทำอยู่ก็ได้" หนังสือประวัติศาสตร์แห่งภพเล่มหนาเตอะถูกปิดลง ตามด้วยกริ่งบ่งบอกถึงเวลาหมดคลาสเรียนของนักศึกษาได้ดังขึ้น เหล่านักศึกษาพากันออกจากห้องประชุมโดยไม่ลืมกล่าวลาผู้สอน
"พวกเราไปก่อนนะครับ/คะ ศาสตราจารย์เซดิเฟียร์ " กลุ่มหนุ่มสาวก้มหัวเล็กน้อยให้ศาสตราจารย์ของตน
"ศาสตราจารย์ค่ะ วิชาประวัติศาสตร์ของศาสตราจารย์สนุกมากเลยคะ" หญิงสาวผมทรงทวินเทลที่ถามคำถามก่อนหน้านัั้นเดินเข้ามาหาเซดิเฟียร์ เขาจึงยิ้มให้เธออีกครั้งเป็นเชิงกล่าวขอบคุณ
"ใช่ครับ ถูกอย่างที่หล่อนว่า คราวหน้าผม
จะลงเรียนอีกแน่นอนครับ"ชายหนุ่มร่างกำยำที่สมกับเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลของมหาวิทยาลัยซึ่งน่าจะเป็นแฟนของหญิงสาวเมื่อดูจากการที่ทั้งคู่เดินควงแขนกันมา
"งั้นพวกเราลานะครับ/คะ"ทั้งคู่กล่าวเสร็จก็พากันเดินจากไป
ต่อจากนั้นก็มีกลุ่มนักศึกษาอีกหลายกลุ่มเข้ามาพูดคุยกับเซดิเฟียร์เกี่ยวกับเรื่องที่ได้สอนไปวันนี้ ด้วยการที่เซดิเฟียร์ไม่ได้หนุ่มเหมือนแต่ก่อน ทำให้เขาไอออกมา ซึ่งการไอแต่ละทีดูแรงราวกับจะกระชากวิญญาณของเซฟิเดียร์อย่างไรอย่างนั้น
ดวงตาสีเทาหม่นเหลือไปมองหญิงสาวช่างสงสัยตรงหน้าแล้วคลี่ยิ้มบาง
"นั้นสินะ ลูซิอัสถูกลงโทษด้วยการให้ไปจุติที่ภพมนุษย์ เวียนว่ายตายเกิดเฉกเช่นมนุษย์ธรรมดาทั่วไปที่ไร้ซึ่งพลังอำนาจใดๆเป็นเวลาห้าพันชาติ และในตอนนี้เขาก็คงกำลังใช้ชีวิตดุจมนุษย์ธรรมดาจากความผิดที่ตนทำอยู่ก็ได้" หนังสือประวัติศาสตร์แห่งภพเล่มหนาเตอะถูกปิดลง ตามด้วยกริ่งบ่งบอกถึงเวลาหมดคลาสเรียนของนักศึกษาได้ดังขึ้น เหล่านักศึกษาพากันออกจากห้องประชุมโดยไม่ลืมกล่าวลาผู้สอน
"พวกเราไปก่อนนะครับ/คะ ศาสตราจารย์เซดิเฟียร์ " กลุ่มหนุ่มสาวก้มหัวเล็กน้อยให้ศาสตราจารย์ของตน
"ศาสตราจารย์ค่ะ วิชาประวัติศาสตร์ของศาสตราจารย์สนุกมากเลยคะ" หญิงสาวผมทรงทวินเทลที่ถามคำถามก่อนหน้านัั้นเดินเข้ามาหาเซดิเฟียร์ เขาจึงยิ้มให้เธออีกครั้งเป็นเชิงกล่าวขอบคุณ
"ใช่ครับ ถูกอย่างที่หล่อนว่า คราวหน้าผม
จะลงเรียนอีกแน่นอนครับ"ชายหนุ่มร่างกำยำที่สมกับเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลของมหาวิทยาลัยซึ่งน่าจะเป็นแฟนของหญิงสาวเมื่อดูจากการที่ทั้งคู่เดินควงแขนกันมา
"งั้นพวกเราลานะครับ/คะ"ทั้งคู่กล่าวเสร็จก็พากันเดินจากไป
ต่อจากนั้นก็มีกลุ่มนักศึกษาอีกหลายกลุ่มเข้ามาพูดคุยกับเซดิเฟียร์เกี่ยวกับเรื่องที่ได้สอนไปวันนี้ ด้วยการที่เซดิเฟียร์ไม่ได้หนุ่มเหมือนแต่ก่อน ทำให้เขาไอออกมา ซึ่งการไอแต่ละทีดูแรงราวกับจะกระชากวิญญาณของเซฟิเดียร์อย่างไรอย่างนั้น
เหล่านักศึกษาที่กระจุกอยู่รอบเซดิเฟียร์จึงพากันแยกย้ายออกจากห้องไปจนในห้องเหลือเพียงแค่เซดิเฟียร์กันักศึกษาหนุ่มที่นั่งอยู่หลังห้อง ทำให้ห้องประชุมขนาดใหญ่สไตล์ยุโรปยุคกลางที่สามารถจุคนได้หลายพันโล่งขึ้นทันตาอย่างเห็นได้ชัด
"อ้าว ลูเธอร์ยังไม่ไปอีกรึ" เสียงแหบพร่าทักหนุ่มหัวฟ้าที่นั่งอยู่คนเดียวขึ้น ดวงตาเหลือบไปมองนาฬกิาที่ข้อมือเหี่ยวของตน เข็มสั้นชี้ที่เลยเลขสิบสองมาหน่อยนึงทำให้รู้ว่าเป็นเวลาเที่ยงกว่าแล้ว
"นี่ก็เที่ยงกว่าแล้ว ไปทานข้าวพร้อมอาจารย์เถอะ"เซดิเฟียร์ค่อยๆเดินลงจากแท่นบรรยายเพราะเกรงว่าถ้าเดินลงมาเร็วเกินไปอาจทำให้ร่างแก่ๆของตนกระดูกหักทั้งหมดได้
"..." ลูเธอร์ไม่ตอบคำถามของเซดิเฟียร์แต่หันไปมองทางอื่นแทน
"นายไม่ตอบอาจารย์นะลูเธอร์"เซดิเฟียร์เดินหาลูเธอร์ที่อยู่หลังห้องระหว่างเดินไปก็ไอไปด้วยเป็นระยะๆ ลูเธอร์ส่ายหน้าไปมาสุดท้ายจึงตัดสินใจเดินไปหาศาตราจารย์ของตนแล้วคว้ามือเซดิเฟียร์เอาไว้
"อาจารย์ไม่ชอบให้ใครเมินรู้ไหม ยิ่งคนที่เมินเป็นนายด้วย"เซดิเฟียร์ทิ้งน้ำหนักตัว
ลงแล้วฟุบหน้าลงกับแผ่นอกของลูเธอร์
"ผมรู้ครับศาสตราจารย์" มือบางเลื่อนขึ้นเสยผมสีควันเช่นเดียวกับดวงตาของเซดิเฟียร์ ทำให้ผมที่ปกติมักจะเรียบแปล้ยุ่งขึ้นเล็กน้อย
"แต่เรื่องที่ศาสตราจารย์เล่าในคลาสผมรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก"
"อา--- นั้นคงเป็นเพราะจะใกล้ครบห้าพันชาติที่เป็นมนุษย์แล้วหล่ะมั้ง" เซดิเฟียร์
เงยหน้าสบตากับลูเธอร์ แต่ต้องถอยหลังออกห่าง เมื่อเห็นว่าลูเธอร์หยิบปืนพกขึ้นมาจากกระเป๋าสะพาน
"ฮะ ฮะ ฮะ" จู่ๆเสียงหัวเราะของลูเธอร์ดังก้องห้องประชุมราวกับคนเสียสติ ปากกระบอกปืนถูกยกขึ้นจ่อที่ขมับของตน
"อ้าว ลูเธอร์ยังไม่ไปอีกรึ" เสียงแหบพร่าทักหนุ่มหัวฟ้าที่นั่งอยู่คนเดียวขึ้น ดวงตาเหลือบไปมองนาฬกิาที่ข้อมือเหี่ยวของตน เข็มสั้นชี้ที่เลยเลขสิบสองมาหน่อยนึงทำให้รู้ว่าเป็นเวลาเที่ยงกว่าแล้ว
"นี่ก็เที่ยงกว่าแล้ว ไปทานข้าวพร้อมอาจารย์เถอะ"เซดิเฟียร์ค่อยๆเดินลงจากแท่นบรรยายเพราะเกรงว่าถ้าเดินลงมาเร็วเกินไปอาจทำให้ร่างแก่ๆของตนกระดูกหักทั้งหมดได้
"..." ลูเธอร์ไม่ตอบคำถามของเซดิเฟียร์แต่หันไปมองทางอื่นแทน
"นายไม่ตอบอาจารย์นะลูเธอร์"เซดิเฟียร์เดินหาลูเธอร์ที่อยู่หลังห้องระหว่างเดินไปก็ไอไปด้วยเป็นระยะๆ ลูเธอร์ส่ายหน้าไปมาสุดท้ายจึงตัดสินใจเดินไปหาศาตราจารย์ของตนแล้วคว้ามือเซดิเฟียร์เอาไว้
"อาจารย์ไม่ชอบให้ใครเมินรู้ไหม ยิ่งคนที่เมินเป็นนายด้วย"เซดิเฟียร์ทิ้งน้ำหนักตัว
ลงแล้วฟุบหน้าลงกับแผ่นอกของลูเธอร์
"ผมรู้ครับศาสตราจารย์" มือบางเลื่อนขึ้นเสยผมสีควันเช่นเดียวกับดวงตาของเซดิเฟียร์ ทำให้ผมที่ปกติมักจะเรียบแปล้ยุ่งขึ้นเล็กน้อย
"แต่เรื่องที่ศาสตราจารย์เล่าในคลาสผมรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก"
"อา--- นั้นคงเป็นเพราะจะใกล้ครบห้าพันชาติที่เป็นมนุษย์แล้วหล่ะมั้ง" เซดิเฟียร์
เงยหน้าสบตากับลูเธอร์ แต่ต้องถอยหลังออกห่าง เมื่อเห็นว่าลูเธอร์หยิบปืนพกขึ้นมาจากกระเป๋าสะพาน
"ฮะ ฮะ ฮะ" จู่ๆเสียงหัวเราะของลูเธอร์ดังก้องห้องประชุมราวกับคนเสียสติ ปากกระบอกปืนถูกยกขึ้นจ่อที่ขมับของตน
"ศาสตราจารย์คุณหน่ะกล่าวผิดแล้ว ไม่ใช่ใกล้ครบห้าพันชาติ แต่เป็นชาติที่ห้าพันแล้วต่างหากครับ" สิ้นเสียง นิ้วเรียวก็ลั่นไกปืนขึ้น
ปัง--- เลือดกระจายเปรอะหน้าเซดิเฟียร์และโต๊ะเก้าอี้ที่อยู่บริเวณรอบๆ ทุกอย่างกลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง
"ชาตินี้ก็ไม่ใช่งั้นรึ"เซดิเฟียร์ก้มมองร่างไร้วิญญานที่นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นด้วย
สีหน้าผิดหวัง ขณะที่จะเดินจากไปนั้นเขาก็ต้องหยุดแล้วหันกลับมามอง เมื่อร่างของลูเธอร์ที่ควรนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้นกลับยืนขึ้นดึงชายเสื้อของเซดิเฟียร์เอาไว้
"ศาสตราจารย์ครบห้าพันชาติแล้ว"เส้นผมสีฟ้าเปลี่ยนเป็นสีเงิน ปีกทั้งหมดถูกกางออกมาจากแผ่นหลังโอบร่างของทั้งคู่เอาไว้ ก่อนจะกดจูบลงไปด้วยความรู้สึกโหยหาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ริมฝีบางบางละออกจากปากคนตรงหน้า ไล่ไปตามซอกคอและแผงอก และทุกอย่างได้หยุดลงเมื่อร่สงที่ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวขัดขืนขึ้นแล้วเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายกระทำเอง ปีกทั้งหมดจึงถูกเก็บตามเดิมไม่ทันตั้งตัว
ปัง--- เลือดกระจายเปรอะหน้าเซดิเฟียร์และโต๊ะเก้าอี้ที่อยู่บริเวณรอบๆ ทุกอย่างกลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง
"ชาตินี้ก็ไม่ใช่งั้นรึ"เซดิเฟียร์ก้มมองร่างไร้วิญญานที่นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นด้วย
สีหน้าผิดหวัง ขณะที่จะเดินจากไปนั้นเขาก็ต้องหยุดแล้วหันกลับมามอง เมื่อร่างของลูเธอร์ที่ควรนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้นกลับยืนขึ้นดึงชายเสื้อของเซดิเฟียร์เอาไว้
"ศาสตราจารย์ครบห้าพันชาติแล้ว"เส้นผมสีฟ้าเปลี่ยนเป็นสีเงิน ปีกทั้งหมดถูกกางออกมาจากแผ่นหลังโอบร่างของทั้งคู่เอาไว้ ก่อนจะกดจูบลงไปด้วยความรู้สึกโหยหาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ริมฝีบางบางละออกจากปากคนตรงหน้า ไล่ไปตามซอกคอและแผงอก และทุกอย่างได้หยุดลงเมื่อร่สงที่ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวขัดขืนขึ้นแล้วเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายกระทำเอง ปีกทั้งหมดจึงถูกเก็บตามเดิมไม่ทันตั้งตัว
เซดิเฟียร์เงยหน้าหวังจะสบตากับอีกฝ่าย ก็ต้องพบกับสิ่งที่เปลี่ยนไป
เมื่อรูปร่างของลูเธอร์เป็นลูซิอัสอย่างสมบูรณ์
ทันใดนั้นเซดิเฟียร์ที่ปกติจะมีสีหน้าเรียบเฉยได้แสยะยิ้มขึ้นขณะที่ใบหน้ากำลังบูดเดียว
ไม่ได้รูปอย่างน่ากลัว
"ยินดีต้อนรับกลับลูซิอัส บุตรแห่งข้า" เสียงนุ่มดุจเสียงพิณที่เหล่าเอลฟ์ในเทพนิยายดังขึ้น เพียงชั่วพริบตาร่างเซดิเฟียร์ถูกแทนด้วยอาร์คาทัช
เป๊าะ--- ทันทีที่อาร์คาทัชดีดนิ้ว ห้องประชุมก็สั่นขึ้นอย่างรุนแรงก่อนจะหยุดลง จู่ๆภาพเบื้องหน้าก็แตกลงราวกับกระจกที่โดนทุบ ห้วงมิติตรงหน้าถูกฉีกออกเผยให้เห็นกองทัพทหารปีศาจนับหมื่นยืนเรียงไปถึงอีกฝากของประตูมิติ อีกฝากที่มีภพปีศาจรออยู่...
"เอาหล่ะลูซิอัส กลับบ้านกันเถอะ"อาร์คาทัชยื่นมือให้บุตรชายของตน
เป๊าะ--- ทันทีที่อาร์คาทัชดีดนิ้ว ห้องประชุมก็สั่นขึ้นอย่างรุนแรงก่อนจะหยุดลง จู่ๆภาพเบื้องหน้าก็แตกลงราวกับกระจกที่โดนทุบ ห้วงมิติตรงหน้าถูกฉีกออกเผยให้เห็นกองทัพทหารปีศาจนับหมื่นยืนเรียงไปถึงอีกฝากของประตูมิติ อีกฝากที่มีภพปีศาจรออยู่...
"เอาหล่ะลูซิอัส กลับบ้านกันเถอะ"อาร์คาทัชยื่นมือให้บุตรชายของตน
"พระบิดา ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน" ลูซิอัสกุมมืออาร์คาทัชแน่น หยดน้ำใสเอ่อล้นจากดวงตาสีเลือด อาร์คาทัชยิ้มอย่างอ่อนโยนราวกับนักบุญให้บุตรตน
แล้วทั้งคู่ก็พากันเดินผ่านกองทัพปีศาจที่ยืนเรียงจนถึงภพปีศาจที่พวกเขาจากมานาน
ที่บอกว่าพวกเขาเพราะ ตั้งแต่ที่ลูซิอัสลงมาจุติที่ภพมนุษย์ อาร์คาทัชได้ตามลงมาจุติด้วย เพื่อเฝ้ามองบุตรเพียงหนึ่งเดียวของตน
เวลาภพมนุษย์เดินเร็วกว่ามาก ภพมนุษย์ผ่านไปหลายหมื่นปีแต่เวลาที่ภพปีศาจพึ่งผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่พันปี ยิ่งเทียบกับอายุขัยของปีศาจแล้วทุกอย่างผ่านไปเพียงแค่พริบตาเท่านั้น
ประตูมิติถูกปิดลง ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่มีใครรู้จักลูเธอร์ ไม่มีใครรู้จักเซดิเฟียร์ ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับทั้งคู่ของทุกคนที่เคยพบเคยคุยได้อันตรธานไปจดหมด ไม่เหลือแม้กระทั่งเศษเสี้ยวแห่งความทรงจำใดๆลงเหลืออยู่อีก
'ลาก่อนภพมนุษย์'
.
.
.
End
ประตูมิติถูกปิดลง ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่มีใครรู้จักลูเธอร์ ไม่มีใครรู้จักเซดิเฟียร์ ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับทั้งคู่ของทุกคนที่เคยพบเคยคุยได้อันตรธานไปจดหมด ไม่เหลือแม้กระทั่งเศษเสี้ยวแห่งความทรงจำใดๆลงเหลืออยู่อีก
'ลาก่อนภพมนุษย์'
.
.
.
End
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น