FanFic : Pirates of the Caribbean : Dead Men Tell No Tales : 01

FanFic : 《Pirates of the Caribbean 5》
: Captain Salazar x ??? , ??? x Captain Salazar , ??? x ???
Rate : PG (?)
คุยกันก่อน : ทุกอย่างก็เหมือนเดิมฮั๊บ อย่าหาสาระจากFanFic
เนื่องด้วยอยากเขียนเรื่องของซาลาซาร์เลยไปดูหนังpirates5มา(เกี่ยวกันไหมเนี่ย?)ซาลาซาร์คู่กับใครก็ไม่รู้ อวยหลายคู่จัด 555 และสุดท้ายรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เข้ามารับชมรับอ่านกัน

   เสียงปืนใหญ่ดังก้องสนั่นท้องทะเลไม่ขาดสายโดยมีเรือโจรสลัดนับสิบลำแล่นโอบล้อมลอมเรือรบสเปนสามกระโดงเรือเปลี่ยนทะเลแคริบเบียนอันสงบเป็นสมรภูมิเดือดแสนบ้าคลั่งในพริบตา เรือที่อยู่ตรงกลางใช่ว่าจะอยู่เฉยกระดมยิงกระสุนปืนใหญ่กลับไปไม่น้อยหน้าเช่นกัน เพียงชั่วอึดใจเรือโจรสลัดที่คิดท้าทายก็ถูกส่งให้เป็นเศษไม้ลอยเหนือน้ำทะเล
   "กัปตัน- กัปตันซาลาซาร์" เสียงเรียกจากเรือโทผู้คาดผ้าปิดตาสีดำที่ตาข้างซ้ายร้องเรียกกัปตันของตน "จะให้ทำอย่างไรกับโจรสลัดที่เหลือรอดดีครับ" เจ้าตัวสาวเท้าเข้าไปยืนเคียงข้างชายวัยกลางคนเพื่อรอรับคำสั่ง
   นัยน์ตาสีน้ำตาลออกเข้มเล็กน้อยจับจ้องไปยังเหล่าโจรสลัดที่ลอยคออยู่ในทะเล บ้างก็กอดเศษแผ่นไม้กระดานไว้เพื่อไม่ให้จม บ้างก็นำผ้าสีขาวขึ้นมาโบกเป็นการยอมแพ้ "โจรสลัดฆ่าพ่อข้า และฆ่าพ่อของพ่อข้า..." น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเบนสายตามาที่เลซาโรพร้อมมองลึกเข้าไปในดวงตาข้างเดียวที่เหลืออยู่ของอีกฝ่ายเสมือนกำลังค้นหาอะไรบ้างอย่างข้างใน ใบหน้าเลซาโรแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อยเมื่อถูกซาลาซาร์มองมา กัปตันแห่งเรือไซเรนจ์แมรี่คลี่ยิ้มบางพร้อมเอ่ยคำพูดเบาๆ "ฆ่าซะ" ว่าเสร็จก็หันหลังให้ขอบเรือ เสื้อคลุมตัวใหญ่สะบัดเมื่อต้องกับสายลมจนกระเพื่อมยกเว้นเสียแต่เส้นผมสีดำเข้มที่ถูกหวีเสยเรียบแปล้ติดหนังศีรษะเท่านั้นที่ไม่สะบัดตาม
   ลูกกระสุนจากปากกระบอกปืนยาวหลายสิบกระบอกพุ่งไปยังเหล่าโจรสลัดด้านล่าง เกิดเสียงร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดสลับรับกับเสียงปืน คำว่าโหดเหี้ยมคงน้อยไปสำหรับคำสั่งกัปตันอาร์มานโด ซาลาซาร์คนนี้
   "ในที่สุดโจรสลัดก็หมดไปเสียที" ซาลาซาร์เงยหน้ามองท้องฟ้าสีครามที่ประดับด้วยเมฆขาวสะอาดตาก้อนเล็กก้อนน้อย ยังไม่ทันที่จะได้อิ่มเอมกับชัยชนะเท่าที่ต้องการเสียงของใครบางคนได้ดังขึ้นขัดความสุข
   "มีเรือลำนึงกำลังจะหนีไป-!!!" ไม่รอช้าซาลาซาร์รีบคว้ากล้องส่องทางไกลขึ้นมาส่องไปที่เรือลำนั้นทันที ชายหนุ่มผมยาวประบ่าทำนิสัยทะเล้นยืนอยู่บนเสากระโดงเรือโบกไม้โบกมือมาทางตนก่อนจะกระโดลงมาธงสีดำมีลายหัวกระโหลกเด่นหรากลางผืนใบชักขึ้นโบกสะบัดอยู่ในเลนส์กล้อง "ตามมันไป-!!! อย่าให้มันหนีไปได้" ซาลาซาร์แผดเสียงเกรี้ยวกราดสั่งผู้ใต้บังคับบัญชา
   เรือไซเรนจ์ แมรี่ไล่ตามเรือโจรสลัดลำสุดท้ายที่เหลืออยู่จนมาถึงช่องทางที่มีเศษหินตั้งกันเป็นสามเหลี่ยมหรือที่ใครหลายๆคนรู้จักกันใครสามเหลี่ยมปีศาจ พื้นที่โดยรอบมีบรรยากาศอึมครึมแผ่เป็นวงกว้างอีกทั้งหินแหลมคมที่เป็นอันตรายเต็มไปหมดยากต่อการบังคับเรือให้เป็นไปตามที่หวัง เลซาโรพยายามเตือนซาลาซาร์ว่ามันอันตรายเกินไปให้หันหัวเรือกลับแต่ซาลาซาร์ไม่ยอมฟังขึ้นบังคับพังงาเรือด้วยตนเอง ไล่ตามเรือตรงหน้าไปติดๆและแล้วเรือทั้งสองลำแล่นมาใกล้ปากทางเข้ามากขึ้น
   แต่แล้วเรือโจรสลัดตรงหน้าก็หันหัวเรือออกไปทางซ้ายวนรอบโขดหินที่อยู่ก่อนปากทางเข้า "มันหันเรือกลับ-!" ซาลาซาร์ระเบิดเสียงหงุดหงิด สายตาสีน้ำตาลเผลอสบเข้ากลับร่างที่อยู่บนเรือตรงข้าม ข้อมือเรียวหมุนควงกล่องสีดำขนาดเล็กกว่าฝ่ามือไม่มากนักที่น่าจะเป็นเข็มทิศ ชายคนนั้นหันมามอบรอยยิ้มชวนลุ่มหลงให้คนที่กำลังคุมพังงาเรือ ซาลาซาร์ไม่อาจละสายตาจากร่างบางได้ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างล่อล่วงเอาไว้
   "กัปตันซาลาซาร์-!" เลซาโรเรียกกัปตันของตนให้หลุดจากภวังค์ แต่ไม่ทันเสียแล้วเรือจากกองทัพเรือสเปนได้แล่นเข้ามาภายในสามเหลี่ยมปีศาจเป็นที่เรียบร้อย ไร้ซึ่งการหนีใดๆเรือไซเรนจ์ แมรี่พุ่งเข้าชนหินโสโครกขนาดใหญ่ด้านหน้าเต็มแรง การปะทะเข้าอย่างจังทำให้พวกดินปืนที่เก็บไว้ที่ท้องเรือระเบิดขึ้น ลูกเรือที่หนีไม่ทันโดนแรงระเบิดเผาไหม้เป็นจุล ซาลาซาร์พยายามกวาดสายตาหาเรือโทตาข้างเดียวแต่ไม่พบร่างอีกฝ่าย หัวใจรู้สึกโหวงขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ซาลาซาร์จึงตัดสินใจสละเรือ ไม่ทันที่ร่างจะกระโดดพ้นขอบเรือเสากระโดงที่หักจากแรงระเบิดล้มมาทางที่จะหนี ดวงตาซาลาซาร์เบิกกว้างขึ้นก่อนเสากระโดงเรือฟาดลงที่คอซัดร่างซาลาร์กระเด็นตกเรือไป
   ร่างกายหนักอึ้งไปหมด สติเลือนลางใกล้หายไปเกือบหมดแล้ว ซาลาซาร์หลับตาลงปล่อยให้ร่างของตนเองจมสู่ก้นทะเลลึกอันดำมืด เส้นผมที่ถูกเสยเรียบแนบศีรษะแผ่สยายจากแรงน้ำ บาดแผลฉกรรเต็มร่างไปหมดแต่ยังอยู่ในสภาพดีเมื่อเทียบกับลูกเรือคนอื่นที่ซาลาซาร์เห็นก่อนตกลงมา 
   เลซาโรที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสปางตายเห็นร่างซาลาซาร์จมผ่านไปจึงยื่นมือออกไปหมายจะคว้าไว้แต่ไม่อาจทำได้ 'นี่ข้าจะปล่อยให้กัปตันจมลงไปทั้งอย่างนั้นรึ' เพราะอยู่ในน้ำเลซาโรจึงไม่รู้ถึงน้ำที่พลั่งพรูออกมากจากดวงตา เลซาโรกัดฟันแน่นงัดแรงเฮือกสุดท้ายออกมาดิ่งไปยังร่างที่หมาย 'ถ้าตายพร้อมกับกัปตัน อย่างน้อยกัปตันก็ได้ไม่เดียวดาย' เพียงนิดเดียวปลายนิ้วก็จะสัมผัสถึงร่างซาลาซาร์แต่กลับถูกคนร่างบางที่พุ่งมาจากไหนไม่รู้คว้าเอาไว้แล้วดึงขึ้นไป แรงเฮือกสุดท้ายหมดแล้ว เรือโทเลซาโรทิ้งร่างให้ตามประแสน้ำไปแต่ยังคงประคองสติที่เหลือไม่มากเอาไว้หวังจะได้มองกัปตันผู้เป็นที่รักจวบจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต แต่ภาพของคนที่มาช่วยซาลาซาร์นั้นทำให้เลซาโรเดือดดาลเป็นอย่างยิ่ง เมื่อคนที่ช่วยดึงซาลาซาร์ขึ้นไปเป็นคนเดียวกันที่ทำให้เรือไซเรนจ์ แมรี่ต้องอับปางลงอย่างนี้
   ซาลาซาร์เบิกตาโพลงขึ้น สติทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมจึงรีบประมวลผลเพราะเมื่อครู่ตนถูกเสากระโดงเรือฟาดน่าจะคอหักตายไปแล้ว ในขณะที่กำลังคิดอยู่จนไม่ทันรู้ตัวว่าร่างของตนกำลังถูกใครบางคนดึงขึ้นไปได้เหลือบไปเห็นร่างของเลซาโล่จมลงในความมืดของท้องทะเล
   เลซาโร-!!!!!!!!! ซาลาซาร์กู่ร้องในใจพยายามว่ายลงไปหาอีกฝ่ายแต่ถูกแรงจากด้านบนฉุดเอาไว้ไม่ให้ไป กัปตันแห่งเรือไซเรนจ์ แมรี่หันขวับมองยามทิศทางที่แรงดึงมา พบรอยยิ้มยียวนกวนประสาทบนวงหน้าใสไร้หนวดเครา
   เรียวแขนเล็กสอดเข้ามาใต้วงแขนซาลาซาร์ ขาตีน้ำเร็วขึ้นกว่าเดิมเพื่อลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ ไม่ ไม่ ไม่ ม่ายยยยย เลซาโร...เลซาโร-! ซาลาซาร์ทำได้เพียงมองร่างคนข้างใต้จมดิ่งลงก้นทะเล มือตะเกียกตะกายอยากจะคว้าร่างเลซาโรเข้ามาในอ้อมกอดแต่ทำไม่ได้ ซาลาซาร์เพ่งไปที่เลซาโรพบว่าเข้าพยายามพูดอะไรออกมา กระแสน้ำทำให้ตาพร่าไปหมด 'เจ้ากำลังพูดอะไรน่ะเลซาโร่-!'
   ลาก่อนกัปตัน...ข้า... เลซาโรไม่ขยับปากเอ่ยประโยคที่เหลือเพียงมองกัปตันของตนเป็นครั้งสุดท้าย เปลือกตาปิดลง ทุกอย่างในตอนนี้ดำมืดไปหมด ไม่รู้สึกอะไรเลย
   ร่างใต้น้ำทั้งสองโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำ นัยน์ตาสีน้ำตาลฉายถึงความเกรี้ยวกราดราวกับพายุที่โหมกระหน่ำในท้องทะเลคลั่ง หมัดหนักๆชกเข้าที่กรามด้านซ้ายหน้ากะล่อนเท่าที่แรงทั้งหมดจะมีได้ "เจ้า-! ไอ้โจรสลัดเวร"
   "ท่านควรเรียกข้าว่าสแปโร่ กัปตันแจ็ค สแปโร่" เจ้าของเสียงกวนอวัยวะเบื้องล่างเลียเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากแล้วก็ดำดิ่งลงไปใต้น้ำอีกครั้งทิ้งให้ซาลาซาร์ลอยคอเหนือน้ำคนเดียว
   "กัปตัน กัปต๊านนน" เสียงลูกเรือดึงความสนใจซาลาซาร์ให้หันมามองร่างที่แตกร้าวบ้าง ร่างที่เหลือไม่ครบสามสิบสองบ้าง  ด้วยสายตาผวาปนฉงน
   "พวกเจ้า..." ซาลาซาร์รีบสำรวจร่างกายตนเองมันที ร่างกายแตกเป็นรอยร้าวไม่ต่างจากลูกเรือคนอื่น ราวกับตอนนี้สมาชิกแห่งเรือไซเรนจ์ แมรี่โดยคำสาปกลายเป็นผีไปเสียแล้ว นัยน์ตาสีน้ำตาลวาวโรจน์ขึ้น 'เมื่อเป็นแบบนี้แสดงว่าเลซาโร่ก็ยัง...' ไม่ทันคิดเสร็จร่างของแจ็ค สแปโร่ก็โผล่ขึ้นจากน้ำโดยที่หิ้วร่างเลซาโร่ขึ้นมาด้วย
   "ขอบใจข้าซะสิ" แจ็คตอบเอื่อยๆดันเลซาโร่ให้ลอยตามกระแสน้ำไปหาซาลาซาร์
   ซาลาซาร์รีบรับเลซาโร่เอาไว้ทันควัน "กัปตัน..." เสียงของเลซาโรแผ่วเบาไม่ต่างจากคนที่ละเมอจากพิษไข้ "ข้า...ข้า" เจ้าของดวงตาข้างเดียวพยายามแหงนมองใบหน้ากัปตันที่รัก
   "ชู่ว ชู่ว ชู่ว ไม่ต้องพูดแล้ว พักผ่อนซะ" ซาลาซาร์รีบปรามคนในอ้อมกอดอย่างรวดเร็วพร้อมลูบศีรษะเบาๆ เลซาโรยิ้มออกมาบางๆก่อนจะหมดสติซบลงที่ไหล่กว้างของซาลาซาร์ ดวงตาสีน้ำตาลกลับมาจ้องที่โจรสลัดด้วยความอาฆาตมาดร้าย "เจ้าต้องการกันแน่อะไรสแปโร่" น้ำเสียงกดต่ำบวกใบหน้าที่แตกร้าวเพิ่มความสยองได้ดี แต่แจ็คก็ไม่มีท่าทีหวาดหวั่นแม้แต่น้อย
    "หึๆๆ เรื่องนั้นไว้ข้าจะพูดหลังจากพักแล้ว เห้อ เหนื่อยชะมัด" แจ็คปีนขึ้นไปบนซากเรือไซเรนจ์ แมรี่อย่างทุลักทุเลเมื่อขึ้นไปถึงดาดฟ้าต้องพบกลับเหล่าลูกเรือที่กลายเป็นผี "ช่วยข้าหน่อยสิ ข้าไม่อยากโดนผีสเปนหลอกนะ" น้ำเสียงตลกดังเรียกซาลาซาร์ที่อยู่ในน้ำ
   เหล่าลูกเรือผีเมื่อได้รับคำสั่งจากกัปตันจึงไม่ทำอะไรแจ็คทำเพียงมองด้วยสายตาแค้นเคือง เมื่อแจ็คเดินหายเข้าไปในซากท้องเรือจึงละความสนใจมายังซาลาซาร์กับเลซาโร่ที่ยังอยู่ในน้ำ ลูกเรือพากันกระโดดลงน้ำเพื่อไปช่วยทั้งสองพวกที่เหลืออยู่บนเรือต่างโยนเชือกลงมาให้คว้าไว้
   เมื่อเท้าทั้งสองก้าวแตะลงบนพื้นดาดฟ้าเรือ ความไม่มั่งคงที่ขาฉุดร่างซาลาซาร์ให้คุกเข่ากระแทกลงกับพื้นไม้โดยไม่ทันตั้งตัว เจ้าของร่างพยายามดันตัวขึ้นหลายครั้งแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเพราะขาในตอนนี้ผิดรูปอยู่ไม่ใช่น้อย ลมหายใจฉุนเฉียวควบเสียงคำรามปนกร่นด่าตัวเองทำให้เหล่าลูกเรือที่ถูกสาปหลายคนลังเลที่จะเข้าใกล้เพื่อไปประคองซาลาซาร์จึงเฝ้ามองกัปตันของตนอยู่ห่างๆ
   กัปตันชาวสเปนกวาดมองไปยังลูกเรือทั้งหลายก่อนจะหลับตาลงแล้วลืมขึ้นอีกครั้ง มือขวาชักดาบยาวที่อยู่ข้างเอวออกมาเพื่อช่วยในการดันร่าง มือซ้ายไม่ปล่อยเปล่าจับที่ขอบเรือแน่นจนเล็กฝังลงในเนื้อไม้ ซาลาซาร์พยุงตัวเองขึ้นช้าๆแต่มั่นคง เมื่อตั้งหลักได้แล้วจึงเริ่มเอ่ยกับเหล่าลูกเรือ
   เส้นผมสีดำขลับเคลื่อนไหวราวกับมีชีวิตตามการเคลื่อนไหว  "ข้าไม่รู้ว่าโจรสลัดชั่วสแปโรว์มีแผนอะไรแต่การที่มันมาทำดีแบบนี้..."เสียงทุ้มเว้นระยะเล็กน้อย โดนไม่ลืมเบนสายหาไปยังเรือโทตาเดียวที่ถูกลูกเรือคนอื่นแบกขึ้นมาจากทะเลแล้วจับให้พิงอยู่กับโคนเสากระโดงเรือที่หักฟาดคอซาลาซาร์ ดีแล้วที่ไม่เป็นอะไรมาก เจ้าตัวเริ่มสงบจิตใจที่แปรปวนอยู่ในอก
   "เมื่อกล้าท้าทายกับคนตายก็ต้องสนองความตายกลับไป" รอยยิ้มเย็นเยียบปรากฏบนใบหน้าสมาชิกบนเรือทุกคน สายตาทุกดวงมุ่งมายังซาลาซาร์เพื่อรอคำสั่ง "ไปฆ่ากัน" สิ้นเสียงลูกเรือทั้งหลายที่เหลือร่างค่อนข้างสมสมบูรณ์บ้างไม่สมบูรณ์บ้างวิ่งกรูลงไปที่ท้องเรือ
   ตอนนี้ดาดฟ้าเรือเหลือแค่ซาลาซาร์กับเลซาโร "รอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวข้ามา" มือหนาขยับหมวกคนที่สลบอยู่ให้เข้าที่ก่อนจะใช้ดาบพยุงร่างตามทิศทางที่เหล่าใต้บังคับบัญชามุ่งไป
   เสียงฝีเท้าหนักๆก้าวลงบันไดทีละขั้นๆสลับกับเสียงดาบที่ใช้ค้ำร่างไม่ให้เซล้มอย่างไม่รีบร้อน เมื่อใกล้ถึงท้องเรือเสียงดาบปะทะกันเป็นพัลวันเร่งให้ซาลาซาร์ต้องลงมาดูเร็วขึ้น ร่างของแจ็ค สแปโร่กำลังฟันดาบด้วยท่าทีไม่ต่างจากคนเมากับลูกเรือของตนที่ล้อมรอบเอาไว้ ซึ่งดูๆแล้วพวกลูกเรือจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบอีกต่างหาก สแปโร่เปลี่ยนจากฟันดาบเป็นการวิ่งวนไปวนมารอบซากท้องเรือด้วยความชำนาญเหมือนว่าคือเรือของตัวเองที่รู้จักทุกซอกทุกมุมเสียอย่างนั้นโดยมีเหล่าลูกเรือผีไล่กวดกันเป็นขบวน
   น้ำเสียงใสเอ่ยเรียกร่างที่เพิ่งลงมาด้วยความร่าเริงเหมือนทุกที "ว่าไงกัปตัน~ มาเล่นด้วยกันไหม" ว่าเสร็จร่างของสแปโร่ก็มาหยุดด้านหน้าซาลาซาร์ที่ยังยืนค้างอยู่บนบันไดเสียแล้ว ดวงตาเจ้าเล่ห์เหลือบมองร่างนับสิบที่วิ่งตามมาข้างหลังจวนใกล้ถึงแล้วลอบแสยะยิ้มขึ้นพร้อมมือเรียวยื่นออกไปคว้าคนตรงหน้าให้เข้าชิดร่างตน แรงดึงดูดของโลกทำให้ร่างทั้งสองไถลตกบันไดนอนกองอยู่แทบเท้าลูกเรือที่เกือบหยุดไม่ทัน
   "ข้ามีเรื่องที่ต้องคุยกับกัปตันพวกเจ้า รีบๆไปกันแล้วแล้วไป ชิ๊วๆ" ฝ่ามือทำท่าปัดไล่ไปให้พ้นๆ "โอ๊ะ ถ้าเข้ามาข้าเชือดนะ" เมื่อถูกของแหลมคมในมือลูกเรือผีจ่อใส่หน้า สแปโร่จึงคว้าคน...ไม่สิ ตอนนี้ควรเรียกว่าผี สแปโร่คว้าผีกัปตันหน้าแตกมาเป็นโล่กำบังพร้อมมีดสั้นที่ไม่ทราบที่มาจี้แนบคอ  สร้างความลังเลให้ผู้ห้อมล้อมว่าควรเสียบแทงสลัดกะล่อนขอบตาดำคนนี้หรือไม่สุดท้ายก็พากันลดมือลง
   "กัปตัน..." ลูกเรือกล่าวเสียงเบา มองร่างกัปตันชาวสเปนที่ถูกโจรสลัดกดติดกับพื้น
   "เป็นผีกันแล้วแท้ๆ ยังจะกลัวอะไรอีก" ซาลาซาร์พูดเสียงขึ้นจมูก ดาบที่ช่วยพยุงจะเอามาเป็นอาวุธก็ถูกปัดไปไกลยากที่จะหยิบจึงใช้มือเปล่าแงะใบหน้าที่ก้มมาใกล้เกินจำเป็นให้ห่างออกด้วยความรังเกียจ
   "อย่าขยะแขยงสิ ยังไม่ทันลองเลยนะ" เสียงทุ้มใสกระซิบกระซาบข้างใบหูซาลาซาร์เกินผู้อื่นจะได้ยิน ช่วงสุดท้ายยังมีการเบาลมใส่พร้อมมือที่ซ่อนพ้นสายตาลูกเรือไซเรนจ์ แมรี่ล้วงเขาข้างในเสื้อคนตายที่กดไว้  ลูบไล้ไปยังส่วนต่างๆอย่างแผ่วเบา "ซักยกไหมล่ะ-?" ทั้งที่กลายเป็นผีไปแล้วแต่กลับมีอารมณ์ทุกอย่างเหมือนตอนเป็นคนอยู่ช่างไม่รู้จะพูดอย่างไรดีเสียนี่ แน่นอนว่าอารมณ์ส่วนนั้นก็ย่อมมีด้วย
   ซาลาซาร์เงียบอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะตัดสินใจพูดบาอย่างออกมา"พวกแกออกไปให้หมด ตรงนี้ข้าจัดการเอง" การถูกหยอกล้อส่วนสำคัญด้านร่างทำให้ซาลาซาร์ใช้พลังในการพูดมากขค้นเพื่อกันไม่ให้เสียงสั่นจากความรู้สึกดีดังผสมออกมา "ไป-!!! ข้าไม่สั่งก็อย่าได้ลงมา-!" เพราะเกรงว่าถ้าลูกเรืออยู่นานกว่านี้จะต้องจับจุดผิดสังเกตุได้เป็นแน่ สายตาจ้องเขม็งจนลูกเรือคนสุดท้ายหายขึ้นไป
   "อืมๆ อยากเป็นรับหรือรุกล่ะกัปตัน ข้าได้หมดนร้า~" นิ้วเรียวสอดเข้าไปหลังกางเกงล้วงหาเส้นทางด้านหลังอย่างๆช้า เมื่อเจอจึงใช้นิ้วกลางจ่อเอาไว้
   "ฮะๆ" คนโดนล้วงกล่าวหัวเราะเบาๆ "ข้าเป็นถึงกัปตันจะโดนกดมันก็กระไรอยู่-!!!" ร่างรีบผลิกตะแคงไปคว้าดาบเก่าๆของลูกเรือที่ทำหล่นไว้ใกล้ๆ มือเงื้อมสูงขึ้นแล้วดิ่งลงปักคมดาบลงที่เสื้อสแปโร่เพื่อตรึงอีกฝ่ายไว้คราวนี้ซาลาซาร์จึงกลายมาเป็นฝ่ายคร่อมอีกคนแทน "และอีกอย่างถ้าไม่ใช่คนที่ข้ารักข้าไม่ลดตัวไปทำด้วยหรอก"
   อื๊ม ข้าล่ะเบื่อคนที่มั่นคงในความรักเสียจริงสายตาที่แสดงถึงความเจ้าเล่ห์ตลอดเวลากลับสงบนิ่งไร้อารมณ์ใดๆ "งั้นข้าคงต้องไปทำกับคนที่ท่านรักซะแล้วสิ" โจรสลัดหนึ่งเดียวภายในเรือเลียปากเบาๆ
   "ไอ้บัดซบ-!" ซาลาซาร์กระชากคอเสื้อสแปโร่ขึ้นตามประสาอาการฉุนเฉียวพร้อมใบหน้าทั้งสองห่างกันเพียงแค่ฝ่ามือกั้นจนได้ยินเสียงลมหายใจของอีกฝ่าย "ถ้าแกทำอะไรเขาล่ะก็ แกได้ตายแน่-!"
   ไม้กระดานเรือดังเอี๊อยอ๊าด ร่างหลายสิบที่ขึ้นมาจากท้องเรือปลุกเลซาโรที่พิงเสาเรืออยู่ปรือตาขึ้นช้าๆ คนใส่ผ้าปิดตาสะบัดหัวเล็กน้อยเพื่อไล่อาการมึน
   ลูกเรือที่อยู่ใกล้เห็นว่าเลโซราฟื้นแล้วจึงเดินเข้ามาถามอาการอีกฝ่ายเพื่อคลายกังวล "เรือโทเลซาโรเป็นยังไงบ้าง"
   คนพึ่งฟื้นเงยหน้าตามเสียง มือลูบหน้าตัวเองเป็นการสำรวจ แต่นิ้วก็ต้องชะงักเมื่อตาที่เบลออยู่เมื่อครู่กลับมาชัดเจนเห็นภาพตรงหน้าได้ตามปกติ ภาพลูกเรือที่มีผิวแตก บริเวณช่วงอกลงมาถึงหน้าท้องโหว่เป็นรูกว้างเหมือนถูกยิงด้วยปืนใหญ่ เลซาโรรู้สึกตัวสั่นระริก "น่ะ นี่พวกเจ้าเป็นอะไรกันแน่" 
   ผีทหารสเปนอกโหว่ครุ่นคิดหาคำอธิบายให้เรือโทตาเดียว "เรือของเราอับปาง"
   "เรื่องนั้นข้ารู้" เจ้าตัวพยายามควบคุมอาการตื่นตระหนก
   "ราวกับว่าสมาชิกทุกคนแห่งเรือไซเรนจ์ แมรี่โดนสาปให้กลายเป็นผี ติดอยู่ในสามเหลี่ยมปีศาจ" เลซาโรทำหน้าเหวอจนลืมสำรวจร่างกายตนเองลูกเรือที่เข้ามาถามอาการจึงกล่าวเพิ่ม "และคุณเองก็เป็นผีเฉกเช่นเราทุกคนบนเรือลำนี้ ถ้ายังไม่เชื่อก็ลองดูรอบๆเสียสิ"
   เลซาโรมองสิ่งต่างๆรอบทิศตามคำพูดร่างตรงหน้า ไม่ต่างจากอากาศในปอดโดนสูบออกจนสิ้นเมื่อภาพรอบตัวเป็นซากเรือไซเรนจ์ แมรี่ที่ไม่น่าจะแล่นได้อีก เหล่าลูกเรือผีร่างกายแตกร้าว ความมืดในสามเหลี่ยมปีศาจที่แสงอาทิตย์ไม่อาจสาดส่องมา
   "กัปตันล่ะ กัปตันซาลาซาร์อยู่ไหน-!"
   "อยู่ที่ท้องเรือ...กับโจรสลัดชั่วที่ล่อให้เรามาจบลงในสามเหลี่ยมปีศาจแห่งนี้"
   "บ้าชิบ" ความโกรธลุกโชนพรึ่บในอก เท้าทั้งสองข้างวิ่งไปยังทิศที่ซลาซาร์อยู่
   คนกระล่อนได้ยินเสียงเหมือนมีคนลงบันไดมา แต่ท่าทางซาลาซาร์ยังไม่รู้ตัวเพราะอยู่ในห้วงความโกรธ สแปโร่ยกมุมปากขึ้น ยื่นไปให้เข้าไปใกล้อีดฝ่ายพร้อมจูบริมฝีปากซาลาซาร์แนบแน่นตรงกับวินาทีที่เลซาโรลงมาถึงท้องเรือพอดี
   ซาลาซาร์ไม่คิดว่าสแปโร่จะจูบตนทั้งๆที่โดนกระชากคอเสื้อเอาไว้ ไหนๆก็จูบแล้วจะเลยตามเลยหน่อยล่ะกัน หึๆ กัปตันชาวสเปนขบคิดในใจตอบโต้การจูบกลับไปเพราะจริงๆแล้วเขาก็รู้สึกสนใจสแปโร่อยู่ไม่น้อย
   เลซาโร่มองที่กดกันอยู่บนพื้นกำลังจูบกันอย่างดูดดื่มพร้อมการแลกลิ้นแบยเห็นได้ชัด หัวใจรู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกฉีกกระชากเละอย่างไร้ความปราณี
   "กัป...ตัน" เรือโทผู้คาดผ้าปิดตาบนตาซ้ายเค้นเสียงออกมาจากลำคอที่เหมือนถูกบีบแน่น
   ทั้งคู่ผละปากออกจากกัน ซาลาซาร์ดันตัวขึ้นเบนไปมองร่างที่มาขัดจังหวะอย่างไม่สบอารมณ์ อยากจะออกเสียงตะคอกใส่ไปแรงๆแต่คำตะคอกเหล่านั้นต้องกลับลงคอทันทีเมื่อสังเกตุว่าที่ลงมานั้นคือเลซาโร
   "ขอโทษขอรับที่มารบกวน" เลซาโร่กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาประดับบนใบหน้าเรียบเฉยกับคนที่พึ่งหยุดจูบกับโจรสลัดเสร็จก็หันหลังกับขึ้นไปข้างบนทันทีไม่รอฟังคำพูดอะไรอีก
   "แม่งเอ๊ย-!" ซาลาซาร์สบถลั่นถีบร่างสแปโร่ให้กระเด็นออกไป เดินไปหยิบดาบที่อยู่ห่างออกไปอย่างทุลักทุเลมาช่วยพยุงแล้วรีบตามผู้ที่เห็นฉากเมื่อครู่ขึ้นไปติดๆ
   สแปโร่ปัดฝุ่นบนตัวเสื้ออย่างเซ็งๆ "เห้อ กำลังจูบเพลินเลย"
   "ทำไมขึ้นมาเร็วนักล่ะเรือโท ไม่เจอกัปตันรึ" สมาชิกเรืออกโหว่คนเดิมร้องทักเมื่อเห็นเลซาโรเดินขึ้นมาจากท้องเรือด้วยใบหน้าบึ้งตึง
   "เจอ-! กำลังสนุกกับเจ้าโจรสลัดนั่นอยู่เลย" คนถูกถามแผดเสียงตอบแล้วมุ่งไปยังท้ายเรือที่ไม่มีใครอยู่เพื่อสงบสติอารมณ์
   "สนุก? ทรมาณเรอะ? อ้าว กัปตัน" ร่างซาลาซาร์โผล่มาจากบันไดลงไปท้องเรือเรียกความสนใจลูกเรือมาที่ตัว
   "เลซาโรอยู่ไหน" ร่างที่ใช้ดาบพยุงจวนล้มไม่ล้มแหล่เอ่ยถามขึ้น
   "เอ่อ...เมื่อครู่เห็นเดินไปทางท้ายเรือขอรับกัปตัน" เจ้าตัวตอบพร้อมชี้นิ้วไปทางท้ายเรือ หัวคิ้วขมวดมองซาลาซาร์ที่รีบลากสังขารไปโดยไม่รอช้า ไหนว่าสนุกกับไอ้โจรสลัดนั่นไง โอ๊ะ ตรูล่ะงง ลูกเรือที่ถูกถามเกาหัวด้วยความฉงนสนเท่ห์
   "เลซาโร-!" ซาลาซาร์ตะโกนเรียกเรือโทตาเดียว แต่เจ้าตัวก็ยังไท่มีที่ท่าว่าจะหยุด ซาลาซาร์จึงรีบจ้ำขาตามไปโดนไง
   โครม-!!!
   ดาบที่ช่วยพยุงร่างสะดุดเข้ากับเศษไม้ที่หักอยู่บนพื้น ร่างซึ่งต้องการการพยุงจึงล้มกระแทกพื้น เลซาโรหยุดเดินหนีวิ่งมาดูซาลาซาร์ด้วยความร้อนรนค่อยๆจับร่างซาลาซาร์ให้นั่งพิงกับขอบเรือแล้วทำท่าจะเดินจากไปจึงโดยมือแกร่งของอีกฝ่ายขว้าข้อมือไว้แน่น
   "อย่าไป..."
   "ท่านทำให้ข้าเป็นฝ่ายต้องไป"
   "ข้าขอโทษเลซาโร ข้าขอโทษ" ซาลาซาร์เอ่ยคำพูดโทษตัวเองซ้ำไปซ้ำมา "ได้โปรดอยู่เคียงข้างข้า"
   มือเล็กประคองใบหน้าอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาให้เงยขึ้นมาสบกับแววตาที่แสดงถึงความเจ็บปวดของตนด้วยน้ำเสียงค่อนไปทางเศร้า "ข้าไม่เคยจากท่านไป ข้าอยู่กับท่านเสมอ" นิ้วเรียวข้างขวาลดมาทาบเหนือบริเวณหัวใจคนตรงหน้าแล้วเปลี่ยนเป็นจิ้มนิ้วลงไป "ในนี้..."
   ซาลาซาร์คว้าร่างบางเข้ามาสวมกอดแนบชิดอิงกายจนอีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวทิ้งแรงทั้งหมดตามแรงดึง นั่งคร่อมเหนือร่างคนที่ดึง มือหนาไล่นิ้วตามแนวกระดูกสันหลังคนด้านบนขึ้นมายันต้นคอเลยถึงข้างแก้ม ออกแรงเบาๆเป็นการเชิญชวนให้ก้มต่ำลงเข้าหาใบหน้าตน
   คนด้านล่างเผยอปากขึ้นเล็กน้อย ประโลมจูบอ่อนโยนช้าๆไม่รีบ แลกเปลี่ยนรสชาติในปากของกันและกัน มือหนาล้วงเข้าไปใต้เสื้อเลซาโรแต่ถูกเจ้าตัวจับลำแขนเอาไว้เหมือนเป็นสัญญาณให้หยุด ซาลาซาร์สบเข้านัยน์ตาข้างเดียวด้วยความสงสัย
   "ถ้ามีใครมาเห็นคงไม่ใช่เรื่องดี..." เลซาโรพูดเสียงแผ่ว
   "นั่นสินะ" ซาลาซาร์ถอดมือจากใต้เสื้ออีกฝ่ายมาบีบมือทั้งสองข้างอีกฝ่ายแทน
   แปะ แปะ แปะ เสียงปรบมือจากด้านบนเสียงสายตาทั้งสองให้จับจ้องไปมอง เป็นใครไม่ได้นอกจากแจ็ค สแปโร่ โจรสลัดหนุ่มจอมกระล่อน เลซาโรลุกจากตัวซาลาซาร์ ชี้นิ้วไปยังอีกฝ่ายพร้อมสายตาต้องเขม็ง
   "ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าทำแบบนี้เพราะอะไร อย่าหวังว่าข้าจะฆ่าเจ้าอย่างปราณี"
   "น่ากลัวจังๆ คนรักท่านนี่น่าสนใจดีนะกัปตัน~" สแปโร่มองไปยังซาลาซาร์ที่พิงขอบเรืออยู่ด้วยรอยยิ้มแล้วกระโดดลงมาตรงที่ๆทั้งสองอยู่คว้าแขนเลซาโรเข้ามา ดวงตาทั้งสองสบกัน คนกระล่อนก็ลงมือจูบที่ริมปากแล้วขบกันไปเหมือนทำสัญลักษณ์
   "สแปโร่-!!!" ซาลาซาร์ใช้แรงที่มีเงื้อมดาบจะแทง สแปโร่รู้ทันความคิดดึงร่างเลซาโรมาเป็นโล่ป้องกันในอ้อมแขน โชคดีที่เบนทิศทางดาบได้ทันหากไวกว่านี้ซาลาซาร์คงได้เสียบคมด้านที่แผ่นหลังเรือโทเป็นแน่
   "อ๊ะ หมดเวลาของข้าที่จะอยู่บนเรือลำนี้แล้วสิ" สแปโร่สบเจ้าของตาสีเข้มข้างเดียวด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ "ขอมอบรางวัลทิ้งท้ายไว้ล่ะกัน" คนพูดกระชับร่างในอ้อมแขนแน่น ใบหน้าก้มต่ำลงช้าๆ
   อย่าบอกนะว่า...! เลซาโรขัดขืนเต็มที แต่ไม่ทันเสียแล้ว ริมฝีปากที่ไม่เคยถูกชายหญิงใดนอกจากกัปตันผู้เป็นที่รักกำลังถูกโจรสลัดไม่รู้หัวนอนปลายเท้าล่วงเกิน
   ซาลาซาร์มองอย่างเดือดดาล กัดฟันแน่น ดันตัวขึ้นอย่างยากลำบากคว้าเลซาโรกลับคืนมาจากสแปโรจนตัวเองกับฝ่ายถูกดึงเซล้มนั่งกับพื้นแต่สายตายังจ้องสแปโร่เขม็งพร้อมกอดร่างที่ดึงมาแน่น
   สแปโร่มองการกระทำของซาลาซาร์ยิ้มๆแล้วกระโดดขึ้นยืนบนขอบเรือทำท่าเซเล็กน้อย "ที่ข้าช่วยพวกท่านเพราะข้าอยากช่วยต่างหากไม่ได้หวังสิ่งใด" แขนเรียวล้วงเข็มทิศขึ้นมาควงเล่นสบายอารมณ์ "สุดท้ายนะ ถ้าข้าไม่คิดทิ้งเข็มทิศนี่ก็อย่าหวังว่าพวกเจ้าจะออกจากสามเหลี่ยมปีศาจนี้ได้" สิ้นเสียงสแปโร่กางแขนออกด้านข้างทิ้งตัวลงในน้ำทะเล
   ตู๊มมม-!!!
   ผิวน้ำกระเพือมจากแรงปะทะเป็นวงกว้าง ร่างสแปโร่หายไปกับความมืดของน้ำและไม่โผล่ขึ้นมาอีกจนผิวน้ำสงบ รึว่ามันเพี้ยนจริงๆ ทั้งสองมองกันด้วยสายตาฉงนสลับกลับทิศที่สแปโร่ลงไป
   ฟุบ--- ซาลาซาร์ซบลงที่ไหล่เลซาโรอย่างอ่อนล้า "ขออยู่แบบนี้ซักพัก..." เห้อ แค่ตายวันแรกก็เหนื่อยแล้วสิ กัปตันแห่งเรือไซเรนจ์ แมรี่กล่าวในใจ
   มือเลซาโรที่กะจะขยับให้ซาลาซาร์นำหัวออกไปหยุดนิ่งเปลี่ยนมาลูแผ่นหลังอีกฝ่ายเบาๆแล้วสวมกอดไม่ปล่อย "ข้าคนรักของกัปตันซะหน่อย..." เลซาโรบ่นอุบอิบกระชับกอดขึ้น ฟังเสียงอู้อี้พอจับความได้ว่า ถูก เจ้าไม่ใช่คนรักของข้าและข้าก็ไม่ใช่คนรักของเจ้า
   ซาลาซาร์ยกหัวขึ้น นัยน์ตาสีน้ำตาลวาวโรจน์เมื่อสบกับดวงตาตรงหน้า รอยยิ้มอ่อนโยนพุดขึ้นที่มุมปาก "เราต่างคือครึ่งของกันและกัน" มือหนาลูบไล้ใบหน้าแตกอีกฝ่ายคล้อยไปตามหลังคอช้าๆ และแล้วทั้งคู่ก็จมดิ่งกับห้วงแห่งความรัก
   หลายปีผ่านไป... ณ เมืองหลวงประเทศอังกฤษ
   ร่างบางเจ้าของขอบตาคล้ำเดินเตร็ดเตร่ในตรอกแคบท่ามกลางสายฝนที่เทลงมาอย่างหนักไม่มีทีท่าว่าจะหยุด และสายตาก็ไปหยุดที่บาร์เล็กๆที่ตั้งอยู่สุดถนนจึงตัดสินใจเดินเข้าไปดู
   ข้างในร้านมีสว่างวูบวาบตามแสงเทียนี่ถูกลมจากด้านนอกไหลผ่านช่องหน้าต่างกระทบ สแปโร่เดินไปนั่งหน้าเคาน์เตอร์แล้วสั่งเหล้ามาดื่มขวดนึงแล้วซดอึกๆจนหมดขวด เพราะเปียกฝนมานานเจ้าตัวจึงรู้สึกหนาวสั่นไปหมด จู่ๆภาพตรงหน้าก็วูบไป
   เด็กชายที่มีแผลฟกช้ำตามตัวแผดเสียงร้องทั้งน้ำตาเมื่อถูกพ่อของตนตีเพราะเผลอทำผิด เด็กชายที่ถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจตกอยู่ในสภาวะซึมเศร้า
   ความทรงจำที่โหดร้ายวัยเด็กหลอกหลอนสแปโร่ในความฝันซ้ำไปซ้ำมาให้สะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึกแทบทุกครั้ง เขาจึงกลัวที่จะนอนทำให้ขอบตาดำคล้ำเหมือนทุกวันและครั้งนี้คนที่มีประวัติอันโหดร้ายก็สะดุ้งตื่นเหมือนทุกครั้ง
   "ไง~ ตื่นแล้วเหรอเจ้าคนขี้เซา" เสียงทุ้มแหบติดขบขันกล่าวทักคนที่พึ่งตื่นขึ้น สายตาพินิจใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อ "ฝันร้ายหรอ"
   สแปโร่รีบเด้งตัวออกทันทีเมื่อรู้ว่าตนนอนอยู่บนตักช่ยที่ไหนก็ไม่รู้ "เจ้าเป็นใคร-!?" มองร่างที่น่าจะอายุมากกว่าเล็กน้อย
   คนถูกถามลุกขึ้นปัดฝุ่นตามร่าง มือขวายื่นไปตรงหน้าสแปโร่ "บาบาสซ่า เฮกเตอร์ บาบอสซ่า"
   "แจ็ค สแปโร่" ว่าเสร็จก็ยื่นมือไปจับมืออีกฝ่ายอย่างลังเล เมื่อมือทั้งคู่สัมผัสผสานกันความอบอุ่นที่อ่อนโยนก็ถ่ายโอนมายังมือของตน
   นับตั้งแต่รู้จักกับเฮกเตอร์ บาบอสซ่าในวันนั้นแจ็ค สแปโร่ก็ไม่เคยฝันถึงความหลังอันโหดร้ายในวัยเด็กอีก

TBC
  
  

  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

FanFic : วิทูร เชียร [พระเจ้า & สาวก ]

FanFic : witchking of angmar and mouth of sauron 01